มาถึงตอนที่3ค่ะ เราย้อนเวลากลับไปนั่งในหัวใจของบรรพบุรุษเรากันค่ะว่า ปู่ ย่า ตา ทวด ที่ท่านหวงแหนพระพุทธศาสนานักหนา ถึงขนาดที่ว่าสั่งเสียให้เป็นมรดกของชาติ ซึ่งหลังจากที่ท่านกอบกู้ให้ประเทศไทยเรารอดพ้นจากความเป็นทาสแล้ว ท่านย้ำนักย้ำหนาว่า ขอถวายแผ่นดินให้เป็นพุทธบูชา แน่นอนค่ะท่านต้องรู้คุณค่าอย่างมหาศาล เพราะหลังจากผ่านเรื่องราวสู้รบกู้ชาติเสียเลือดเสียเนื้อนองแผ่นดินแล้วท่านฝากฝังสิ่งนี้
การเกิดขึ้นของพระพุทธศาสนาจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยค่ะคุณ ถ้าไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ซึ่งค้นพบสัจจธรรมของชีวิตมนุษย์ ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป พระองค์ทรงค้นพบเรื่องทุกข์ และแนวทางของการดับทุกข์
แต่คุณคะในชีวิตสังสารวัฏอันยาวไกลที่หาเบื้องต้น ท่ามกลาง เบื้องปลาย และที่สุดไม่ได้นี้ เรียกว่ามันยาวนานหลายๆค่ะเกินกว่าจินตนาการ คุณจะแน่ใจได้อย่างไรคะว่าจะมีชีวิตดี๊ดีแบบนี้ตลอด บาปกรรมในอดีตที่คุณได้ทำไว้แสนนาน นานจนคุณลืมไปแล้วจะกลับมาทวงทบต้นผลดอกทับทวีวันไหน เมื่อถึงตอนจ่ายวันนั้นอาจจะหนักจนชีวิตของคุณแบกไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียวค่ะ
1) ทานบารมี
2) ศีลบารมี
3) เนกขัมบารมี
4) ปัญญาบารมี
5) วิริยะบารมี
6) ขันติบารมี
7) สัจจะบารมี
8) อธิษฐานบารมี
9) เมตตาบารมี
10) อุเบกขาบารมี
โดย บารมีทั้ง 10 อย่างนี้แบ่งความเข้มข้น ความยากของการสร้างบารมีแบ่งเป็น 3 ระดับค่ะคือ
1) บารมี คือ การสร้างบารมีระดับธรรมดาที่สละทรัพย์สิน เงินทองธรรมดา
2) อุปบารมี คือ การสร้างบารมีระดับที่เอา อวัยวะ เลือดเนื้อ เป็นเดิมพัน
3) ปรมัตถบารมี คือ การสร้างบารมีในระดับที่เอาชีวิต เป็นเดิมพัน ตายไม่ว่าเมื่อสร้างบารมีถึงระดับเข้มข้นนี้ การบริจาคชีวิตเป็นทานเป็นเรื่องจิ๊บๆเลยค่ะคุณลองคิดดูแล้วกันนะคะว่าหัวจิตหัวใจท่านขนาดไหน
ดังนั้นเมื่อบารมี มี 10 อย่าง และ มี 3 ระดับ ซึ่งถ้าจะจำแนกโดยละเอียด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญบารมี รวม 30 อย่างนั่นเอง และที่สำคัญท่านทำในระดับที่ว่าเข้มข้น
ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านจะบรรลุธรรมนี้เรียกว่าเป็นพระโพธิสัตว์ผู้หวังโพธิญาณ เรียกว่า"อนิยตโพธิสัตว์" และจะต้องสร้างบารมีอย่างเข้มข้นระดับAdvanceเลยค่ะคุณ ประมาณว่าทำทานก็ทำแบบให้ได้แม้กระทั่งชีวิตเป็นทานกันได้เลยทีเดียวค่ะ แล้วไม่ใช่แค่ทำแบบไม่กี่ชาตินะคะ เรียกนับภพนับชาติไม่ถ้วนกันเลยค่ะ นอกจากให้ชีวิตเป็นทานแล้วสิ่งที่เป็นของรักอย่างที่สุดพระองค์ก็สามารถทำทานได้คือ การบริจาค ภรรยา บุตร ธิดา ของตนอีกด้วย และเมื่อบารมีมากถึงจุดๆ หนึ่ง ก็จะได้รับการพยากรณ์จาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด พระองค์หนึ่งว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต หรือเรียกว่า"นิยตโพธิสัตว์"
จากนี้เรามาดูกันว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีกี่ประเภทกันค่ะ และในยุคของเรานี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้ท่านอยู่ในประเภทไหนกันค่ะ
เป็น 3 ประเภท ตามระยะเวลาการบำเพ็ญบารมี คือ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น