ความฝัน 16 ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล ตอนที่ 1
ในกาลสมัยที่พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าของพวกเรายังทรงพระชนม์ชีพอยู่พระเจ้าปเสนทิโกศลซึ่งเป็นพระราชาแห่งแคว้นโกศล ได้ทรงบรรทมหลับในยามราตรีและทรงฝันเห็นนิมิตยืดยาวถึง16 ประการ

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงตกพระทัยตื่นขึ้นในกลางดึกเมื่อทรงรู้สึกตัวแล้ว พระองค์ทรงเกิดความหวาดกลัวต่อมรณภัย จนไม่สามารถที่จะข่มพระเนตรหลับต่อไปได้อีก จนกระทั่งถึงรุ่งเช้า เมื่อพวกพราหมณ์ปุโรหิตมาเข้าเฝ้าในวันรุ่งขึ้น พระองค์จึงทรงตรัสเล่าความฝันทั้ง 16-ประการให้พวกพราหมณ์ฟัง แล้วก็ทรงรับสั่งถามพวกพราหมณ์ว่า “พวกท่านช่วยทำนายให้ทีเถิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ครั้นเหล่าพราหมณ์ปุโรหิตได้ฟังความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศลแล้วทุกคนก็พาลเกิดอาการ มืดแปดด้านเพราะไม่มีใครสามารถพยากรณ์ความฝันทั้ง 16-ประการ นี้ได้ ครั้นจะบอกว่า...ตัวเองไม่รู้ก็ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เอง...เหล่าพราหมณ์ปุโรหิตจึงแสร้งทำท่าสลัดมือแสดงอาการหวาดกลัวเมื่อได้ฟังความฝันทั้ง 16-ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล

เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเห็นอาการของเหล่าพราหมณ์ปุโรหิตเช่นนั้น จึงทรงตรัสถามไปว่า...“ฝันของเรามันดีหรือร้ายอย่างไร เพราะเหตุใด...พวกท่านจึงพากันเกิดอาการสะดุ้งหวาดกลัวเช่นนั้น”
เหล่าพราหมณ์ปุโรหิตเมื่อเห็นว่าได้ที จึงกราบทูลว่า “ข้าแต่มหาราชเจ้า พระสุบินของพระองค์ในครั้งนี้มันช่างรุนแรงและเลวร้ายยิ่งนัก”
เหล่าพราหมณ์ปุโรหิตเมื่อเห็นว่าได้ที จึงกราบทูลว่า “ข้าแต่มหาราชเจ้า พระสุบินของพระองค์ในครั้งนี้มันช่างรุนแรงและเลวร้ายยิ่งนัก”

ครั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฟังเหล่าพราหมณ์ปุโรหิตกล่าวเช่นนั้น พระองค์จึงทรงเริ่มมีพระอาการหวั่นวิตก และทรงตรัสถามต่อไปอีกว่า “แล้วมันจะมีผลร้ายต่อเราอย่างไรหรือ”เหล่า พราหมณ์ปุโรหิตก็ได้กราบทูลต่อไปว่า “จะมีเหตุร้าย หนึ่งในสามประการนี้เกิดขึ้นกับพระองค์ คือ
ประการแรก......จะเกิดความวิบัติต่อราชสมบัติของพระองค์
ประการที่สอง...จะมีโรคระบาดร้ายแรงเกิดขึ้น
ประการที่สาม....จะมีอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตเกิดขึ้นแก่พระองค์พระเจ้าข้า”

เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ฟังเช่นนั้น พระองค์จึงทรงตรัสถามด้วยอาการพรั่นพรึงว่า ......
“แล้วพวกท่านพอจะหาวิธีแก้ไขเหตุร้ายทั้งสามประการนี้ได้หรือไม่”
เหล่าพราหมณ์ปุโรหิตก็ได้กราบทูลว่า “ขอเดชะมหาราชเจ้า พระสุบินของพระองค์ในครั้งนี้มันช่างร้ายแรงยิ่งนัก พวกเกล้ากระหม่อมเกรงว่าเหตุร้ายในครั้งนี้ เห็นทีพระองค์จะไม่มีทางหลีกเลี่ยงไปได้ อย่างมากก็คงเพียงแค่ผ่อนหนักให้เป็นเบาเท่านั้นพระเจ้าข้า”
“แล้วพวกท่านพอจะหาวิธีแก้ไขเหตุร้ายทั้งสามประการนี้ได้หรือไม่”
เหล่าพราหมณ์ปุโรหิตก็ได้กราบทูลว่า “ขอเดชะมหาราชเจ้า พระสุบินของพระองค์ในครั้งนี้มันช่างร้ายแรงยิ่งนัก พวกเกล้ากระหม่อมเกรงว่าเหตุร้ายในครั้งนี้ เห็นทีพระองค์จะไม่มีทางหลีกเลี่ยงไปได้ อย่างมากก็คงเพียงแค่ผ่อนหนักให้เป็นเบาเท่านั้นพระเจ้าข้า”

ครั้นเหล่าพราหมณ์ปุโรหิตกล่าวเช่นนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงทรงตรัสถามถึงวิธีแก้ต่อไปว่า “เราจะต้องทำอย่างไร จึงจะผ่านเหตุร้ายทั้งสามประการในครั้งนี้ไปได้”
เหล่า พราหมณ์ปุโรหิตก็ได้กราบทูลว่า “ข้าแต่มหาราชเจ้า พระองค์จะต้องจัดพิธีบูชายัญด้วยวัตถุสิ่งของทุกอย่าง และสัตว์ทุกชนิด ชนิดละสี่อย่าง...พระเจ้าข้า เมื่อพระองค์ทรงทำเช่นนี้แล้ว เหตุร้ายในครั้งนี้ก็จะมีกำลังเบาบางลงไป”
เหล่า พราหมณ์ปุโรหิตก็ได้กราบทูลว่า “ข้าแต่มหาราชเจ้า พระองค์จะต้องจัดพิธีบูชายัญด้วยวัตถุสิ่งของทุกอย่าง และสัตว์ทุกชนิด ชนิดละสี่อย่าง...พระเจ้าข้า เมื่อพระองค์ทรงทำเช่นนี้แล้ว เหตุร้ายในครั้งนี้ก็จะมีกำลังเบาบางลงไป”

เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้สดับตรับฟังเช่นนั้น พระองค์จึงทรงตรัสกับเหล่าพราหมณ์ปุโรหิตทั้งหลายว่า “ท่านอาจารย์ ถ้าอย่างนั้น...เราขอฝากชีวิตไว้กับพวกท่านด้วย พวกท่านจงรีบจัดเตรียมพิธีบูชายัญปัดเป่าเหตุร้ายให้แก่เราโดยเร็วด้วยเถิด”

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น